พลาสติก(Plastic) คืออะไร

พลาสติก

พลาสติก(Plastic) คืออะไร

พลาสติก (Plastic) เป็นวัสดุที่ผลิตจากการสร้างโมเลกุลพอลิเมอร์ จากสารเคมีที่เรียกว่า พอลิเมอร์ (Polymers) โดยทั่วไปแล้วนั้น  พอลิเมอร์จะมีโครงสร้างที่มีหนึ่งหรือหลายหน่วยที่ซ้ำกันเรียงต่อกัน ทำให้พลาสติกมีความแข็งแรงและความยืดหยุ่นต่างกันไปตามประเภทของพอลิเมอร์และกระบวนการผลิตที่ใช้ในการสร้างมัน อย่างไรก็ตาม, พลาสติกก็มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในกรณีที่มันถูกทิ้งไปในธรรมชาติโดยไม่ถูกทำลายอย่างถูกต้อง การรับรู้ถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาวิธีการรีไซเคิลและลดการใช้พลาสติกหรือใช้พลาสติกที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลงเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบัน.

บรรจุภัณฑ์จาก พลาสติก มีประโยชน์อย่างไร

บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกมีประโยชน์มากมายและมีบทบาทสำคัญในหลายด้านของชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม เหตุผลที่พลาสติกถูกนำมาใช้ในบรรจุภัณฑ์มีดังนี้:

  1. ความคงทนต่อสภาพแวดล้อม: บรรจุภัณฑ์พลาสติกทนต่อความชื้น แสงแดด และสารเคมีได้ดี ทำให้สินค้าภายในไม่เสียหาย และมีอายุการเก็บรักษาที่นานขึ้น.
  2. ความแข็งแรงและความเบา: พลาสติกมีน้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแรง ทำให้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกเหมาะสำหรับการนำส่งและเก็บเสียง.
  3. ความหลากหลายในการออกแบบ: พลาสติกสามารถรูปร่างและสีสันได้ง่าย ทำให้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกสามารถสร้างดีไซน์และรูปร่างที่สวยงามและสะดวกต่อการใช้งาน.
  4. ความปรับแต่ง: บรรจุภัณฑ์พลาสติกสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการของสินค้าและแบรนด์ โดยการพิมพ์โลโก้และข้อความบนบรรจุภัณฑ์ได้ง่าย.
  5. ความปลอดภัย: พลาสติกสามารถมองเห็นภายในบรรจุภัณฑ์ได้ ทำให้สามารถตรวจสอบสินค้าก่อนการซื้อและใช้งาน นอกจากนี้ยังมีพลาสติกที่ปรับปรุงเพื่อเพิ่มความปลอดภัยเช่นพลาสติกที่เป็นโพลิเมอร์บาเตน์ที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหาร.
  6. ความยืดหยุ่น: มีพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้เหมาะสำหรับการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่นถุงพลาสติก.
  7. การรีไซเคิล: บางประเภทของพลาสติกสามารถรีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่ ทำให้ลดปริมาณของพลาสติกที่ต้องทิ้งไปในธรรมชาติ.
  8. การปรับใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ: พลาสติกใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม, อุตสาหกรรมแพทย์, อุตสาหกรรมของเล่น, และอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์.
  9. การลดใช้พลาสติก: ความคำนึงถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ก่อให้เกิดนวัตกรรมในการลดการใช้พลาสติกและใช้พลาสติกรีไซเคิล ทำให้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการลดปริมาณขยะพลาสติกที่สิ่งแวดล้อม.

สรุปลงมาที่นี่, บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกมีประโยชน์ในการปกป้องสินค้า, สะดวกในการใช้งาน, และสร้างความปลอดภัยในการจัดจำหน่ายสินค้า แต่ในเวลาเดียวกันก็ต้องมีความระมัดระวังในการใช้พลาสติกเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมนุษย์ในระยะยาว.

บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติก มีอะไรบ้าง

บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกมีหลายประเภทและรูปแบบตามการใช้งานและความต้องการของผู้ผลิตและผู้บริโภค นี่คือบางประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติก:

  1. ขวดพลาสติก: ขวดพลาสติกมีหลายรูปแบบและขนาด เหมาะสำหรับบรรจุเครื่องดื่ม, น้ำมัน, น้ำหอม, ยา, ผลิตภัณฑ์สำหรับเวชภัณฑ์, และอื่น ๆ.
  2. ถุงพลาสติก: ถุงพลาสติกมีให้เลือกหลายแบบ เช่น ถุงใส่เครื่องมือ, ถุงช้อปปิ้ง, ถุงสำหรับบรรจุขยะ, และถุงสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการการป้องกันจากสารเคมีหรือน้ำ.
  3. กล่องและถาดพลาสติก: กล่องและถาดพลาสติกสามารถใช้ในการบรรจุสินค้าและของต่าง ๆ เช่น อาหาร, ผลิตภัณฑ์สำหรับเวชภัณฑ์, เครื่องแต่งกาย, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์.
  4. กระปุกพลาสติก: กระปุกพลาสติกมักถูกใช้ในการบรรจุอาหารแช่แข็ง, เนื้อสัตว์, อาหารแช่แข็ง, และอื่น ๆ.
  5. หลอดและฝาพลาสติก: หลอดและฝาพลาสติกมักถูกใช้ในการบรรจุสินค้าที่เป็นน้ำหอม, ยา, ครีม, และผลิตภัณฑ์สำหรับเวชภัณฑ์.
  6. บรรจุภัณฑ์แบบ Blister: บรรจุภัณฑ์แบบ blister มักถูกใช้ในการบรรจุสินค้าเล็ก ๆ เช่น ยา, อุปกรณ์การแพทย์, และของเล่น.
  7. ฝาปิดและฝากระปุก: ฝาปิดและฝากระปุกพลาสติกมักถูกใช้ในการปิดและปกป้องสินค้าในบรรจุภัณฑ์.
  8. ขอบกันทัชและฝาครอบ: ขอบกันทัชและฝาครอบทำจากพลาสติกมักถูกใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อป้องกันการรั่วไหลและความสดของสินค้า.
  9. บรรจุภัณฑ์แบบหลอด: บรรจุภัณฑ์แบบหลอดพลาสติกมักถูกใช้ในการบรรจุสินค้าเช่น กาแฟ, น้ำผลไม้, แป้ง, และครีม.
  10. หมวกพลาสติก: หมวกพลาสติกถูกใช้ในการบรรจุสินค้าเหมือนกับฝาปิดและฝากระปุก เพื่อปิดป้องสินค้าในบรรจุภัณฑ์.
  11. กระเป๋าที่มีพื้นที่ใส่ภาพ: กระเป๋าพลาสติกที่มีพื้นที่ใส่ภาพสามารถใช้เป็นบรรจุภัณฑ์สินค้าที่มีการตลาดหรือการโปรโมทสินค้า.
  12. แก้วพลาสติก: แก้วพลาสติกสามารถใช้ในการบรรจุเครื่องดื่มและอาหาร และมักถูกนำมาใช้ในงานปาร์ตีและเหตุการณ์ต่าง ๆ.
  13. บรรจุภัณฑ์แบบเคลือบ: บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีการเคลือบเพื่อเพิ่มความคงทนต่อความชื้นหรือแสงแดดสามารถใช้ในการบรรจุสินค้าที่ต้องการความปกป้องพิเศษ.

ทั้งนี้ควรระวังในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกให้เหมาะสมกับประเภทและคุณลักษณะของสินค้า เพื่อป้องกันความเสียหายและให้ความสะดวกในการจัดจำหน่ายและใช้งานในรูปแบบที่ดีที่สุด.

ถึงแม้พลาสติกจะมีประโยชน์อย่างมากในอุตสาหกรรมในปัจจุบัน แต่ก็ยังคงมีข้อเสียในเรื่องการกำจัด เพราะพลาสติกไม่สามารถย่อยสลายได้เองได้ตามธรรมชาติ จึงเกิดแคมเปญในการ ลดใช้พลาสติกขึ้นมา และรณรงค์ให้ใช้ บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติแทนเนื่องจากบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาตินั้นง่ายต่อการกำจัด และ สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ต่างจากพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติและยากต่อการกำจัด จึงควรต้องมีความระมัดระวังในการใช้พลาสติกเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวนั่นเอง.